ตัวอักษรสีส้ม = ชื่อของบุคคลสำคัญในเนื้อเรื่อง
ตัวอักษรสีชมพู = บทสนทนาในเกม (แปลไทย)
ตัวอักษรสีเขียว = ปุ่มที่เราต้องกดเวลาเล่น
ณ กลางทะเลแห่งหนึ่ง เป็นช่วงที่สภาพอากาศกำลังแปรปรวนอย่างหนัก ท้องฟ้านั้นถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำ สายฝนกระหนํ่าตกลงมาอย่างหนักและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตกแต่อย่างใด กระแสลมที่มากับฟ้าฝนทำให้คลื่นในทะเลนั้นแปรผัน สภาพบรรยากาศแบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้เวลาเป็นช่วงเช้าหรือยามดึก ในช่วงเวลานั้นก็ได้มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังพายเรืออยู่ในกลางทะเลแห่งนี้ ในช่วงที่เขากำลังพายเรืออยู่นั้นเขาก็หันหน้ามองไปยังหน้าเรือพร้อมกับทำสีหน้าตกใจ "เอ๋! นั้นมัน..." ชายวัยกลางคนผู้นี้กล่าวขึ้นมา ภาพที่เขาเห็นข้างหน้าคือเกาะแห่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะมีหมู่บ้านอยู่ที่ยอดดอย แต่ทว่าหมู่บ้านแห่งนั้นกำลังถูกไฟมอดไหม้ไปทั้งหมู่บ้าน เมื่อชายคนนี้เห็นก็ไม่รอช้าเจ้าตัวจึงพยายามพายเรือให้ไวยิ่งขึ้น
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้เห็นแสงสีฟ้าสอดส่องจากท้องฟ้าลงมาทะเลในจุดๆหนึ่ง ด้วยความสงสัยเขาจึงตัดสินใจรีบพายไปยังจุดที่มีแสงสีฟ้า ก่อนที่เขาเกือบจะพายไปถึงก็ได้มีร่างของไร้สติคนหนึ่งลอยขึ้นมาจากหนองนํ้า ชายผู้นี้ได้คว้าร่างไร้สตินี้ขึ้นมายังเรือของตน ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นตราสัญลักษณ์เสื้อของคนที่เขาช่วยขึ้นมา เขาเบิกตาอย่างตกใจ "น่ะ...นี้มันเครื่องแต่งกายแห่งสำนักโฮงมุนไม่ใช่รึ?" ตัวเขาเองกำลังสับสนอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสำนักโฮงมุน เขาพลิกร่างไร้สตินี้ให้หงายหน้าขึ้นมาและพยายามที่จะปลุกให้ร่างนี้ฟื้นขึ้น "เห้ยนาย/เธอน่ะ ได้ยินที่ฉันพูดไหม? เห้ย!" ทำไมหมู่บ้านบนเกาะนั้นถึงกำลังถูกไฟเผาอย่างมอดไหม้? แล้วร่างไร้สติของคนที่ลอยขึ้นมาจากนํ้าคือใคร? และทำไมชายวัยกลางคนคนนี้ถึงจะต้องมาที่นี้และเขาเป็นใครกันแน่?
[รูปประกอบ]
--- ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุการณ์ ณ ยอดเขามูลิบ๊องแห่งสำนักโฮงมอน ---
แสงอาทิตย์สอดส่องเข้ามายังบานหน้าต่างของบ้านหลังหนึ่ง เผยให้เห็นสิ่งของภายในบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นบ้านขนาดเล็กมีห้องเล็กๆห้องเดียว มีของจุกจิกทั่วไปจัดไว้อยู่ตามห้องอย่างเช่นตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก โต๊ะถูกวางไว้ข้างผนังห้องและเก้าอี้หนึ่งตัว และเตียงอยู่ในห้อง แต่หารู้ไม่ว่าบนเตียงมีใครบางคนกำลังหลับใหลอยู่ ทันใดนั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้ เธอมีลักษณะไม่สูงมากผมสีขาวทรงเกล้า สีหน้าเธอดูเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร เธอมุ่งไปที่หน้าเตียงพร้อมกับสะกิดคนบนเตียงให้ลุกขึ้นตื่น "ตื่นได้แล้วน้องเล็ก อาทิตย์ก็รุ่งสางแล้วยังจะมัวนอนอยู่อีก เร็วๆ รีบๆลุกขึ้นมาได้แล้ว" เธอจ้องมองไปที่คนๆนั้น เธอยิ่งมองก็ยิ่งดูเครียดกว่าเดิมเพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวคนนั้นจะไม่มีท่าทีว่าจะลุกเลย เธอจึงกระทืบเท้าของเธออย่างดังรอบนึง พร้อมบ่นงุงิอย่างไม่พอใจ และในที่สุด"ตัวเรา" ก็ได้ลุกขึ้นมาจากเตียง ในสภาพที่มีเครื่องแต่งกายชิ้นน้อย "น้องเล็กคนนี้นี่ยังชอบนอนถอดเสื้อผ้าอยู่อีกหรอเนี้ย ดูไม่ดีเอาซะเล๊ยยย" เธอลากเสียงสูงพอแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย "เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ก็รีบแต่งตัวซะ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เธอคนเดียวนะที่ตื่นช้าน่ะ" ตัวเรารีบใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว(จริงๆ) ตัวเราค่อยๆเดินก้าวออกจากบ้านหลังนั้นอย่างช้าๆ ด้วยความที่พึ่งตื่นเจอแสงแดดก็ต้องเอามือบังตาเล็กน้อย บรรยากาศโดยรอบนั้นมีลมเย็นพัดผ่านมาตลอด มีนํ้าตกที่ตกมาจากก้อนเฆมไม่ขาดสาย มีสัตว์ต่างๆมากมายในบริเวณนี้ไม่ว่าจะเป็น นก สุนัข และอื่นๆอีกมากมาย ดูเหมือนว่านี้จะเปรียบเสมือนเมืองแห่งสรวงสวรรค์เลยก็ว่าได้ ตัวเรามองไปรอบๆ บิดขี้เกียจทีสองที และรีบเข้าไปยังบ้านหลังเล็กๆข้างเพื่อปลุกศิษย์พี่อีก 2 คน คนนึงสูงพอๆกับศิษย์พี่หญิงที่มาปลุกเราเป็นผู้ชายที่ดูเหมือนจะขี้เกียจจริงๆ ทรงผมสั้นสีดำ และอีกคนเตี้ยเป็นพิเศษ แน่นอนหละก็เขาเป็นชนเผ่าลิน(Lyn) นี้นะ ผมสั้นสีดำ เป็นผู้ชายเช่นกัน
[รูปประกอบ]
ทั้ง 4 ก็ต้องไปทำกิจวัตรประจำวันเหมือนๆกับทุกวันนั้นก็คือต้องไปตัดฝืนและไปก่อไฟเพื่อทำนํ้าร้อน หลังจากเสร็จภารกิจก็ต้องไปประชุมตอนเช้ากับท่านอาจารย์ แต่ในระหว่างที่รวมตัวกันอยู่นั้นดูเหมือนจะมีรุ่นพี่อีกคนนึงที่ไม่ได้มาประชุม ตัวเราจึงต้องออกไปหาศิษย์พี่ชายคนนั้นกับศิษย์พี่หญิงกัน 2 คน ในตอนที่ไปถึงนั้นศิษย์พี่ชายผู้มีนามว่า "มูซอง" กำลังปล่อยนกสีดำบินขึ้นท้องฟ้าหายลับเข้าไปยังก้อนเมฆสีดำ "เมฆสีดำกำลังจะมาถึงแล้วสินะ..." เขากล่าวขึ้นพร้อมกับเอามือไขว้หลังและแสะยิ้มเล็กน้อย "ศิษย์พี่มูซอง!... นี้! ศิษย์พี่มูซอง!" ศิษย์พี่หญิงของเราวิ่งเข้าหามูซองอย่างรวดเร็วพร้อมหยุดตรงหน้า "ศิษย์พี่ขึ้นมาทำอะไรบนนี้หรอ? ทุกๆคนกำลังรอพี่อยู่คนเดียวนะ" เธอทำสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย "ฮ่ะฮ่ะ ข้ากำลังจะไปอยู่พอดีเลย" เขาตอบกลับอย่างไม่มีอะไรก่อนจะหันหน้ามามองที่เรา "โว้วว วันนี้มันวันอะไรกันทำไมน้องเล็กสุดถึงได้ตื่นเช้าได้ล่ะเนี่ย?" เขาถามอย่างแปลกใจ "จริงๆน้องเล็กก็ไม่ได้ตื่นเองหรอก ต้องให้ฉันปลุกนี้หละถึงจะตื่นเช้ากันเป็น" เธอพูดกับมูซองก่อนที่จะหงายหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสงสัย "เอ๊ะ! นั่นอะไรน่ะ?" เธอพูดและชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าระหว่างตัวเรากับมูซอง เธอเกาหัวตัวเองก่อนจะพูดว่า "ฉันคงตาฟาดไปน่ะ ฉันคิดว่าฉันเห็นผู้หญิงใส่เสื้อผ้ายาวๆสีขาวกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า..." มูซองมองหน้าอย่างตลก "ฮ่ะฮ่ะ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่นอนไม่พอเสียเองนะเนี้ย" แต่หารู้ไม่ ดูเหมือนจะมีหญิงในร่างชุดขาวกำลังลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับจ้องมองมายังกลุ่มของเราทั้ง 3 คนอยู่จริงๆ เพียงแต่พวกเราไม่สามารถมองเห็นเธอได้....
[รูปประกอบ]
หลังเสร็จสิ้นบทสนทนาทั้ง 3 คนก็ไม่รอช้าจึงรีบวิ่งไปพบปะกับอาจารย์ของตน อาจารย์ของพวกเราดูเหมือนจะเป็นชนเผ่าลินตัวเล็ก ผมหงอกและมีเคราที่ค่อนข้างยาว ดูท่าจะแก่ชราพอสมควร
"หืมม ดูเหมือนว่าพวกเจ้ามารวมตัวกันครบแล้วสินะ? น้องเล็กสุดก็มาด้วย ดีเลย... ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาเนี้ยก็เพื่อจะบอกอะไรกับพวกเจ้าบางอย่าง" "สำนักของเราโฮงมอนในตอนนี้ยังคงมีสมาชิกในสำนักน้อยเหมือนเดิมแต่พวกเราก็อยู่ด้วยกันมานานพอสมควรแล้วนะถ้าพูด แต่ในตอนนี้สำนักของเราก็ได้ไปอยู่ในรายชื่อสำนักดีเด่นแล้ว นั้นก็ต้องขอบคุณวิทยายุทธลับแห่งสำนักโฮงมอนที่ทำให้สำนักของพวกเราแตกต่างและเด่นกว่าสำนักอื่นๆ" "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการที่จะบรรลุวิทยายุทธลับแห่งโฮงมอน แต่การที่มีพลังอันยิ่งใหญ่นั้นก็ต้องมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ตามมาด้วยเช่นกัน..." "การช่วยเหลือผู้อื่น, ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า, การรู้จักความยุติธรรม และการฝึกฝนตนให้เป็นผู้ผดุงความเป็นธรรม ทำตามสิ่งที่ข้าบอกเหล่านี้และพวกเจ้าก็จะสามารถเรียนรู้วิทยายุทธลับแห่งสำนักโฮงมอนได้ด้วยตนเอง" "ดังนั้นไม่ต้องเร่งด่วนอะไรกันใจเย็นๆและทำตามทางที่ข้าวางไว้ให้ เข้าใจใช่มั้ย? อีกอย่างนึง น้องเล็กสุดตามข้ามาทางนี้" หลังจากอาจารย์กล่าวจบ คนอื่นๆก็แยกย้ายไปทำในสิ่งที่ตนต้องทำกันตามกิจวัตร แต่ตัวเราต้องเดินขึ้นไปตามที่บันไดหินตามอาจารย์ไป ข้างหน้าเป็นดูเหมือนเป็นห้องขนาดเล็กห้องนึง ซึ่งมีโบราณวัตถุมากมายอย่างไหและดาบ "เจ้าน่ะ ไปหยิบหนังสือวิทยายุทธลับแห่งโฮงมอลมาจากตู้นั้นสิ" ตัวเราก็เดินไปตู้นั้นพร้อมกับค้นหาชื่อหนังสือตามที่ท่านอาจารย์ได้บอกไว้ ตัวเรากด "K" ขึ้นมาพร้อมกับเห็นรายละเอียดท่าวิทยายุทธต่างๆ มากมาย พร้อมกับเข้าไปฟังอาจารย์พูดว่า "เอาละนะ ดูเหมือนเจ้าก็รู้แล้วสินะว่ามีอะไรอยู่ข้างในหนังสือเล่มนี้? เจ้าจะเรียนรู้ท่าวิทยายุทธใหม่ๆได้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นจะจำไว้ว่าทุกๆครั้งที่เจ้าเลเวลอัพ(ทุกๆ 2 เวล) ก็ให้เช็คหนังสือเล่มนี้เสมอ" "ข้าก็อยากจะสอนเจ้าด้วยตัวข้าเองหละนะ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะชราเกินไปหละ (ไอ 2 ครั้ง)" "เจ้าจงไปบอกศิษย์พี่ของเจ้า ยังมุก ที่สนามประลอง เขาคงจะรู้เองว่าควรจะทำยังไงบ้าง..."
[รูปประกอบ]
ตัวเรารีบใช้วิชาวิ่งตัวเบารีบวิ่งไปหาศิษย์ยังมุกที่สนามประลอง เราหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมมองศิษย์พี่ยังมุก ลักษณะตัวเขาสูงใหญ่บึกบึนมาก ผิวคลํ้าหน่อยๆ สีหน้าดูเหมือนคนไร้อารมณ์ "ในที่สุดเจ้าก็มาจนได้ ไหนอาจารย์บอกอะไรกับเจ้าบ้าง?" เขาถามอย่างสงสัย ตัวเราจึงยื่นหนังสือเล่มนึงให้เขาดู เมื่อเขารับหนังสือเขาตกใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า "เดียวนะ! หนังสือเล่มนี้มัน...! นี้ท่านอาจารย์มอบให้กับเจ้าอย่างงั้นหรือ?" ตัวเราจึงตอบไปว่าใช่แล้ว "หืมม เข้าใจหละ ดูเหมือนอาจารย์จะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์เข้าสำนักอย่างเป็นทางการแล้วสินะ ขอแสดงความยินดีด้วยล่ะกัน ข้าจะเป็นคนสอนศิลปะการต่อสู้แบบนี้ให้เจ้าเอง ไม่คงจะไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคาดคิดหรอกนะ เพราะฉะนั้นจะเตรียมใจไว้ซะ... จงรับอาวุธเหล่านี้ไป" ....
No comments:
Post a Comment